LEED
LEADERSHIP
IN ENERGY
AND ENVIRONMENTALDESIGN
ความเป็นมา
LEED เริ่มในปี 1994 โดยนักวิทยาศาสตร์ ชื่อ Robert K. Watson จาก Natural
Resources Defense Council ร่วมกับองค์กรไม่หวังผลกำไร,
ตัวแทนภาครัฐ,สถาปนิก, นักพัฒนาที่ดิน,
วิศวกร, มัณฑนากร, ภูมิสถาปนิก,
ผู้จัดการโครงสร้าง, ผู้เช่า
และเจ้าหน้าที่รัฐและผู้นำในวงการอุตสาหกรรม ตั้งแต่ปี 1994 ถึง 2006 LEED มีการเติบโตจากมาตรฐานเดียวสำหรับการก่อสร้าง
สู่ระบบการเปรียบเทียบมาตรฐาน 6 มาตรฐานซึ่งครอบคลุมทุกแง่มุมในเรื่องการพัฒนาและกระบวนการก่อสร้าง
ซึ่ง LEED เติบโตจากอาสาสมัครเพียง 6คนสู่ 200 คน โดยมีคณะกรรมการ 20 คณะ และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเกือบ 150 คน
หลักการ
นิยามความเป็นอาคารเขียว หรือ Green Building โดยกำหนดมาตรฐานการประเมิน
-ช่วยเหลือในการผสมผสานวิธีปฏิบัติการออกแบบทั้งตัวอาคาร
-แสดงคุณค่าความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
-กระตุ้นการเกิดการแข่งขันความ’เขียว’
-ให้ผู้บริโภคเล็งเห็นประโยชน์ของ ‘อาคารเขียว’
-เปลี่ยนแปลงตลาดอาคาร
ปัจจุบันการออกแบบอาคารเขียวเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ
อย่างกว้างขวาง
มาตรฐานที่ใช้ในการออกแบบอาคารเขียวที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุดอันหนึ่งคือ LEED
ซึ่งย่อมาจาก Leadership in Energy and Environmental Design
ซึ่งพัฒนาโดย USGBC (United States Green Building Council) ประเทศสหรัฐอเมริกา เกณฑ์การประเมินของ LEED ยังแบ่งออกเป็นหลายแบบ
เพื่อความเหมาะสมในการใช้งาน

- LEED for Building Design and Construction
(LEED BD+C) ใช้สำหรับประเมินอาคารที่สร้างใหม่
หรืออาคารที่ปรับปรุงใหญ่ โดยออกแบบสำหรับอาคารสำนักงานเป็นหลัก
แต่สามารถใช้กับอาคารประเภทอื่นๆได้ด้วย เช่น สรรพสินค้า โรงแรม โรงงาน เป็นต้น
- LEED for Operation and Maintenance (LEED O+M) สำหรับอาคารที่สร้างเสร็จแล้วที่ต้องการดูแลรักษาอาคารให้เป็นอาคารเขียว
โดยอาคารที่ผ่านแล้วการรับรองประเภท LEED BC+D แล้ว
สามารถสมัครขอการรับรองประเภทนี้ต่อได้ด้วย
- LEED for Homes สำหรับบ้านพักอาศัย
- LEED for School สำหรับโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมปลาย
- LEED for Health Care สำหรับสถานพยาบาลต่างๆ
- LEED for Core and Shell (LEED CS) สำหรับอาคารที่ผู้ประกอบการจะสร้างแต่เปลือกอาคารคือกรอบผนังภายนอกและหลังคา
และส่วนที่เป็นแกนบริการของอาคาร ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือลิฟต์ บันไดและช่องท่อต่างๆ
นั่นเอง แล้วทำการตลาดเพื่อขายหรือให้เช่าพื้นที่ภายใน
โดยผู้เช่าจะเป็นผู้มาตกแต่งกั้นพื้นที่ภายในเอง
- LEED for Interior Design & Construction เป็นแนวทางการตกแต่งภายในสำหรับผู้เช่าอาคารและผู้ออกแบบ
- LEED for Neighborhood Development เป็นแนวทางการพัฒนาชุมชน หมู่บ้าน
การเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะ และการใช้ประโยชน์ที่ดินร่วมกับพื้นที่พาณิชยกรรม
แบ่งการพิจารณาอาคารเป็น 3 ส่วนใหญ่คือ
- การออกแบบ
– การก่อสร้าง
- การจัดการภายในอาคาร
โดยที่แต่ละส่วนจะประกอบไปด้วยเนื้อหาของการประเมินที่เหมือนกัน คือ 5+2 หมวดหลักได้แก่







การประเมินผล
สมาชิกสภาได้กำหนดการประเมินไว้ 5 หลัก
โดย USGBC LEED 2009 เวอร์ชั่น 3
ในระบบ LEED 2009 มีคะแนนฐาน 100 คะแนน บวกกับ 6 คะแนนพิเศษสำหรับนวัตกรรมใหม่ในเรื่องการออกแบบ
และ 4 คะแนนสำหรับความสำคัญของท้องที่
ซึ่งการประเมินจะได้เป็น 4 ระดับ

1 ที่ตั้งโครงการ 26 คะแนน
สิ่งที่ต้องทำก่อน คือ เรื่องการลดมลพิษจากกิจกรรมทางการก่อสร้าง
เรื่องที่ได้คะแนน
1. การเลือกที่ตั้ง
2. ความหนาแน่นของการพัฒนาและการเชื่อมต่อกับชุมชน
3. การพัฒนาใหม่
4. ขนส่งมวลชนทางเลือก
4.1 การเข้าถึงของระบบขนส่งสาธารณะ
4.2 จักรยาน
4.3 ยานพาหนะประหยัดน้ำมันและปล่อยมลพิษน้อย
5. การพัฒนาพื้นที่ตั้งโครงการ
5.1 ที่อยู่ที่ปลอดภัย
5.2 มีพื้นที่ว่างมากที่สุด
6. การออกแบบเกี่ยวกับน้ำฝน
6.1 การควบคุมปริมาณ
6.2 การควบคุมคุณภาพ
7. ผลจากพื้นที่เขตร้อน
7.1 มีหลังคา
7.2 ไม่มีหลังคา
8. การลดมลพิษจากแสง
2 ประสิทธิภาพการใช้น้ำ 10 คะแนน
สิ่งที่ต้องทำก่อน คือ การลดการใช้น้ำ
เรื่องที่ได้คะแนน
1. ภูมิสถาปัตยกรรมที่ใช้น้ำเต็มประสิทธิภาพ
2. เทคโนโลยีน้ำทิ้ง
3. การลดการใช้น้ำ
3 พลังงานและบรรยากาศ 35 คะแนน
สิ่งที่ต้องทำก่อน คือ อำนาจพื้นฐานระบบพลังงานอาคาร และการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด
และการจัดการสารทำความเย็นพื้นฐาน
เรื่องที่ได้คะแนน
1. การใช้พลังงานอย่างเหมาะสม
2. พลังงานหมุนเวียน
3. อำนาจการทำให้ดีขึ้น
4. การจัดการสารทำความเย็นที่ดีขึ้น
5. การประเมินและพิสูจน์
6. พลังงานทดแทน
*หมายเหตุ :
หมวดพลังงานเป็นหมวดที่มีคะแนนมากที่สุด
เพราะเป็นหมวดที่ทำให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้มาก ประกอบด้วยเกณฑ์บังคับ 3 ข้อ LEED ถือว่าการทดสอบการทำงานของระบบเป็นสิ่งสำคัญมาก
โดยจะต้องแต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการทดสอบ (Commissioning
Authority) ที่มีประสบการณ์ด้านการทดสอบอย่างน้อย 2 ปี โดยต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกับผู้ออกแบบหรือผู้รับเหมา
และต้องรายงานผลการตรวจสอบให้เจ้าของทราบโดยตรง ระบบที่ต้องทดสอบการทำงาน
อย่างน้อยที่สุดจะต้องประกอบด้วย ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ระบบแสงสว่าง
ระบบน้ำร้อน ระบบพลังงานหมุนเวียน ซึ่งสามารถทำได้โดยการจำลองค่าพลังงานของอาคารทั้งหมด (Whole
building simulation) ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
เปรียบเทียบระหว่างอาคารที่ออกแบบและอาคารอ้างอิง (Baseline
building) ตามวิธีการคำนวณที่ระบุใน ASHRAE
90.1-2007 Appendix G ทั้งนี้อาคารที่ออกแบบต้องมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่ำกว่าอย่างน้อย10% แต่ถ้าเป็นอาคารสำนักงาน
หรือ ร้านค้าปลีกขนาดไม่เกิน 20,000 ตร.ฟุต(1,858 ตร.ม.) หรือ คลังสินค้าขนาดไม่เกิน 50,000 ตร.ฟุต(4,645 ตร.ม.) ก็อาจใช้วิธีทำตามข้อกำหนดที่ระบุใน ASHRAE Advance Energy
Design Guideโดยไม่ต้องใช้วิธีจำลองโดยคอมพิวเตอร์ หรือทำตามข้อกำหนดใน Advanced Buildings Core Performance
Guideซึ่งสามารถใช้ได้กับอาคารขนาดไม่เกิน 100,000 ตร.ฟุต (9,290 ตร.ม.) ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล คลังสินค้า หรือ
ห้องปฏิบัติการ
4 วัสดุ และแหล่งที่มา 14 คะแนน
สิ่งที่ต้องทำก่อน คือ การเก็บของที่สามารถนำมาผลิตใหม่ได้
เรื่องที่ได้คะแนน
1. การนำอาคารมาใช้ใหม่
1.1 เก็บผนัง, พื้น และหลังคาไว้
1.2 เก็บวัสดุงานสถาปัตยกรรมภายในที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างมาใช้
2. การจัดการของเสียจากการก่อสร้าง
3. การนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่
4. สิ่งที่นำไปผลิตใหม่ได้
5. วัสดุท้องถิ่น
6. วัสดุที่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้
7. ไม้ปลูกทดแทน
5 คุณภาพสิ่งแวดล้อมภายใน 15 คะแนน
สิ่งที่ต้องทำก่อน ลดการใช้อากาศจากภายในอาคาร และควบคุมอากาศไม่พึงประสงค์
1. การตรวจวัดการถ่ายอากาศจากภายนอก
2. เพิ่มการหมุนเวียนอากาศ
3. การวางแผนการจัดการคุณภาพอากาศ
3.1 ช่วงการก่อสร้าง
3.2 ก่อนการกำหนดปริมาณขั้นต่ำ
4. วัสดุที่ปล่อยสารน้อย
4.1 วัสดุยึดติด
4.2 การทาสี การเคลือบ
4.3 ระบบพื้น
4.4 ไม้เทียม
5. การควบคุมการปล่อยสารของวัสดุภายในอาคาร
6. ระบบการควบคุม
6.1 แสง
6.2 สภาวะสบาย
7. สภาวะสบาย
7.1 การออกแบบ
7.2 การยืนยันความถูกต้อง
8. แสงธรรมชาติและทัศนียภาพ
8.1 แสงธรรมชาติ
8.2 ทัศนียภาพ
BONUS
+ นวัตกรรม 6 คะแนน
1. นวัตกรรมการออกแบบ
2. การเป็นที่ยอมรับจาก LEED
+ ความสำคัญของท้องที่ 4 คะแนน
1.
ความสำคัญของท้องที่
กระบวนการการรับรองLEED
บทสรุป
LEED คือ
โครงการรับรองและเป็นที่ยอมรับระดับชาติในเรื่องการออกแบบ, การก่อสร้าง
และการใช้งานของอาคารประสิทธิภาพสูง ซึ่ง LEED ให้ประโยชน์ต่อเจ้าของ
และผู้ใช้งานในการวัดผลกระทบเนื่องมาจากประสิทธิภาพของอาคาร
ซึ่งเน้นหนักในด้านที่ตั้ง, น้ำ, การใช้พลังงาน,
วัสดุ และคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร โดยที่LEED ไม่ได้มุ่งไปที่อาคารประหยัดพลังงานเพียงอย่างเดียว
แต่ยังรวมไปถึงบริเวณโดยรอบ และคุณภาพชีวิตอีกด้วย
โลกไม่ได้อยู่เพียงแค่ชั่วชีวิตเรา
แต่ยังอยู่ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
ดังนั้นการกระทำใดแม้เล็กน้อยก็ต้องนึกถึงส่วนรวมด้วยเพราะทุกสิ่งล้วนมีความสัมพันธ์และส่งผลกระทบต่อกันและกันทั้งสิ้น
The casino to bet on on horse racing - Dr. McD
ตอบลบthe world's largest casino chain; one 포항 출장안마 that's both fun and 구미 출장안마 secure; and one that lets you bet all 김해 출장안마 the 천안 출장마사지 time on the right track. Whether you're looking 남원 출장샵